รถขี่แบบอิสระใช้เซ็นเซอร์ เช่น อินเนอร์เซีย, GNSS, ลีดาร์, ราดาร์คลื่นมิลลิเมตร ฯลฯ เพื่อรับรู้สภาพแวดล้อมรอบตัว และสภาพและตําแหน่งของตัวเองและควบคุมการขับเคลื่อนและความเร็วของรถยนต์โดยใช้ข้อมูลทางและอุปสรรคที่ตรวจจับ, เพื่อให้รถสามารถขับรถได้อย่างปลอดภัยและน่าเชื่อถือบนถนนหรือภายในพื้นที่ที่กําหนด (สนามบิน, ท่าเรือ, สวนอุทยานฯลฯ) การขับรถแบบอิสระเป็นวิธีการขับรถที่ฉลาดซึ่งสามารถเรียกว่า โรบอตเคลื่อนไหว, ซึ่งมักจะพึ่งพาเครื่องมือขับขี่ที่มีความฉลาดในรถโดยใช้ระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อบรรลุการขับขี่โดยไม่มีคนขับ
การตั้งตําแหน่งที่แม่นยํา: ข้อดีหลักของเทคโนโลยี IMU
เทคโนโลยี IMU การนําทางแบบอินเนอร์เชียล รวมตัวเซ็นเซอร์ เช่น เครื่องวัดความเร่งและจิโรสโกป เพื่อสังเกตการติดตามสภาพการเคลื่อนไหวของวัตถุในเวลาจริงเทคนิคนี้สามารถตั้งตําแหน่งได้โดยอิสระจากสัญญาณภายนอก และดังนั้นจึงเป็นที่สําคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพแวดล้อมที่สัญญาณ GPS อ่อนแอหรือล้มเหลวตัวอย่างเช่น ในสภาพแวดล้อมเมืองที่ซับซ้อนหรืออุโมงค์ใต้ดิน รถโดยสารไร้คนขับพึ่งพาระบบ IMU เพื่อรักษาการขับขี่ที่มั่นคงและปลอดภัย
รถขี่แบบอิสระใช้เซ็นเซอร์ เช่น อินเนอร์เซีย, GNSS, ลีดาร์, ราดาร์คลื่นมิลลิเมตร ฯลฯ เพื่อรับรู้สภาพแวดล้อมรอบตัว และสภาพและตําแหน่งของตัวเองและควบคุมการขับเคลื่อนและความเร็วของรถยนต์โดยใช้ข้อมูลทางและอุปสรรคที่ตรวจจับ, เพื่อให้รถสามารถขับรถได้อย่างปลอดภัยและน่าเชื่อถือบนถนนหรือภายในพื้นที่ที่กําหนด (สนามบิน, ท่าเรือ, สวนอุทยานฯลฯ) การขับรถแบบอิสระเป็นวิธีการขับรถที่ฉลาดซึ่งสามารถเรียกว่า โรบอตเคลื่อนไหว, ซึ่งมักจะพึ่งพาเครื่องมือขับขี่ที่มีความฉลาดในรถโดยใช้ระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อบรรลุการขับขี่โดยไม่มีคนขับ
การตั้งตําแหน่งที่แม่นยํา: ข้อดีหลักของเทคโนโลยี IMU
เทคโนโลยี IMU การนําทางแบบอินเนอร์เชียล รวมตัวเซ็นเซอร์ เช่น เครื่องวัดความเร่งและจิโรสโกป เพื่อสังเกตการติดตามสภาพการเคลื่อนไหวของวัตถุในเวลาจริงเทคนิคนี้สามารถตั้งตําแหน่งได้โดยอิสระจากสัญญาณภายนอก และดังนั้นจึงเป็นที่สําคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพแวดล้อมที่สัญญาณ GPS อ่อนแอหรือล้มเหลวตัวอย่างเช่น ในสภาพแวดล้อมเมืองที่ซับซ้อนหรืออุโมงค์ใต้ดิน รถโดยสารไร้คนขับพึ่งพาระบบ IMU เพื่อรักษาการขับขี่ที่มั่นคงและปลอดภัย